อยากสููงต้องรู้ไว้

อะไรทำให้เราสูง?

อยากเพิ่มความสูงทำอย่างไร

องค์ประกอบหลักใหญ่ๆ ที่กำหนดการเพิ่มความสูงของเด็กแต่ละคนได้แก่

• กรรมพันธ์ุ
• สิ่งแวดล้อม (อากาศ และอุณหภูมิ)
• สารอาหารที่ได้รับในช่วงที่เหมาะสม
• วิถีชีวิต การปฏิบัติตัว เช่น การพักผ่อน การออกกำลังกาย ความเครียด

กรรมพันธ์ุ เป็นองค์ประกอบหลักที่แต่ละคนมีมาแต่กำเนิด กรรมพันธ์ุเป็นตัวกำหนดความสูงมาตรฐานของแต่ละคน เช่นนักวิทยาศาสตร์ หรือแพทย์สามารถรู้ได้ว่าเด็กชาย หรือเด็กหญิงคนนี้จะสูงเท่าไหร่ โดยดูจากความสูงของ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ดังนั้นเด็กแต่ละคนจะมีความสูงมาตรฐาน (Standard Personal Height Index) ที่ถูกกำหนดโดย ดีเอ็นเอ (DNA)

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ปล่อยให้ความสูงของเด็กเป็นไปตามกรรมพันธ์ุ โดยขาดความเข้าใจว่า ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่กำหนดความสูงของเด็กได้ เราอาจไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นปัจจัยที่สองได้ง่ายนัก คงมีผู้ปกครองน้อยมากที่จะส่งลูกไปอยู่ในที่ที่มีอากาศ และอุณหภูมิเหมาะสมในการเติบโตของลูก

ความจริงแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องสารอาหารที่ร่างกายได้รับในช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังอยู่ในวัยเติบโต และปัจจัยเรื่องวิถีชีวิต การปฏิบัติตัวในแต่ละวันอีก ที่สามารถเปลี่ยนแปลงความสูงของเด็กได้ แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ขาดข้อมูลความรู้ในปัจจัยเรื่องสารอาหารเพื่อความสูง และการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับการเติบโต ผู้ปกครองส่วนใหญ่ปล่อยให้บุตรหลานเติบโตไปเองด้วยอาหารที่รับประทานประจำวันทั้งๆ ที่ทราบดีว่าสารอาหารเหล่านั้นไม่เพียงไม่มีประโยชน์กับร่างกาย กลับจะเกิดโทษด้วยซ้ำ เช่นการรับประทานอาหารตามสมัยนิยมของวัยรุ่น 

จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ และนักโภชนาการพบว่า อาหารสมัยใหม่มีสารเร่งผลผลิตที่มีผลโดยตรงต่อการเติบโตของเด็ก เราจะพบว่าเด็กผู้หญิงสมัยนี้อายุ 10 – 11 ปี เริ่มมีรอบเดือนกันแล้ว มนุษย์ในปัจจุบันมีอัตราการเป็นโรคหลอดเลือด หัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็งสูงขึ้นมาก โรคร้ายเหล่านี้เป็นโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค เป็นโรคที่เกิดจากการกิน และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน 

หากสารอาหารที่ไม่ดีสามารถมีผลทำร้ายร่างกายมนุษย์ได้ สารอาหารที่ดีก็สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงเจริญเติบโตได้เช่นเดียวกัน เมื่อหลายปีก่อน ชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ล้วนเป็นคนตัวเล็กตามกรรมพันธุ์ ผู้ชายสูงเพียง 160 – 165 ซ.ม. เท่านั้น แต่สิ่งที่เราเห็นวันนี้ เรากลับพบว่าดารา เกาหลี ญี่ปุ่น จีน สูง 180 ซ.ม. ขึ้นไปทั้่งสิ้น หากกรรมพันธุ์เป็นปัจจัยที่กำหนดความสูงปัจจัยเดียวดาราภาพยนต์เหล่านั้นก็ยังคงต้องมีความสูงที่ 160 – 165 ซ.ม. อย่างแน่นอน

นอกจากปัจจัยทั้ง 4 ข้างต้นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “เวลา” หากคุณ อยากให้ลูกสูง คุณต้องตระหนักว่า เด็กทุกคนมีเวลาที่ดีที่สุดในการได้รับสารอาหารเพื่อเพิ่มความสูง และเมื่อได้รับสารอาหาร และการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องในช่วงเวลาที่เหมาะสม เด็กจะสามารถมีความสูงกว่าความสูงมาตรฐาน (Standard Personal Height Index) ตามกรรมพันธุ์ได้ถึง 10 – 15 ซ.ม. ทีเดียว นั่นอาจหมายถึงเด็กที่เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะมีความสูงจากเดิม 160 ซ.ม. เป็นผู้ใหญ่ที่สูง 170 ซ.ม. และแน่นอนผู้ใหญ่ที่มีส่วนสูง 160 ซ.ม. กับ 170 ซ.ม. นั้นมีความสง่างาม และจะมีบุคคลิกต่างกันมาก รวมทั้งเด็กที่สามารถสูงได้ 170 ซ.ม. อาจกลายเป็นผู้ใหญ่ที่สูง 180 กว่าซ.ม. ทั้งนี้เวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก

สำคัญมากสำหรับคุณแม่ที่มีลูกผู้หญิง – เวลาของคุณมีน้อยมาก

ตามธรรมชาติแล้วเด็กผู้หญิงจะเร่ิมเติบโตเร็วกว่าเด็กผู้ชาย จึงมักทำให้คุณพ่อ และคุณแม่นอนใจว่าลูกสาวเริ่มสูงแล้วจึงไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องความสูงมากนัก เมื่อลูกสาวเติบโตไปได้สักพัก เริ่มมีรอบเดือนการเติบโตด้านความสูงเกือบจะหยุดลงทันที ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษหากมีลูกผู้หญิง คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกสาวอายุตั้งแต่ 16 ปี และไม่สูงส่วนใหญ่เคยหลงดีใจว่าลูกสาวเริ่มโตเร็ว และคิดว่าจะสูงอย่างแน่นอนทั้งสิ้น ดังนั้นไม่ควรรอให้ลูกผู้หญิงเข้าสู่วัยมีรอบเดือน ควรรีบให้เด็กผู้หญิงได้รับสารอาหาร และการดูแลอย่างถูกต้องในช่วงเวลาที่เรียกว่า “เวลาทองของการเติบโต” ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก เมื่อเทียบกับเด็กผู้ชาย

อยาก เพิ่มความสูง ให้ลูก ห้ามพลาด

อยากให้ลูกสูง คุณต้องตระหนักว่าคุณมีเวลาน้อยมาก

การที่ลูกจะสูงได้มากกว่าเกณฑ์ความสูงมาตรฐานตามกรรมพันธุ์ได้นั้น เปรียบเสมือนการเรียนดนตรีคลาสิค เช่นเปียโน หรือไวโอลิน ที่ผู้ปกครองจะต้องให้ลูกเรียนตั้งแต่ยังเล็กจึงจะสามารถเก่งติดอันดับได้ หากปล่อยเวลาให้ผ่่านไป และกลับมาเรียนตอนเป็นเป็นผู้ใหญ่ อย่างไรก็ไม่สามารถเก่งได้เท่ากับเรียนตอนเด็ก แต่สำหรับเรื่องความสูงของลูกนั้น เวลายิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการเรียนดนตรีคลาสิคเสียอีก เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว และเริ่มรู้ตัวว่าบุตรหลานคุณไม่สูง ก็อาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้ ต้องหวังแต่ว่าบุตรหลานของคุณจะเป็นเด็กกลุ่มน้อยมากที่ยังสามารถสูงได้แม้ผ่านช่วงเวลาทองของการเติบโตนี้ไปแล้ว

อยากให้ลูกสูง คุณต้องลงทุน ลงเวลา

ถ้าคุณมีกรรมพันธุ์ที่สูงทั้งครอบครัวอยู่แล้ว คุณอาจไม่ต้องกังวลใจเรื่องความสูงของลูก แต่หากคุณสงสัยว่าลูกคุณจะสูงหรือไม่ จงอย่าพิสูจน์เด็ดขาด ความสูงเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีใครแย่งชิงเอาไปจากลูกของคุณได้ และยังสามารถเป็นมรดกตกทอดไปยังลูกหลานของลูกของคุณได้ การลงทุน ลงเวลาดูแลเรื่องโภชนาการ สารอาหาร ของลูกจึงนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และไม่มีความเสี่ยงอย่างใด

อย่าปล่อยช่วงเวลาทองของการเติบโตนี้หลุดลอยไป